HDMI MODE

ค่า Resolution ของ HDPLAYER คืออะไร และค่า HZ ที่ห้อยท้ายคืออะไรกัน

 

[Resolution คือ ค่าความละเอียด]

ปัจจุบันทีวีส่วนใหญ่รองรับ 4K เป็นความละเอียดที่มากกว่า Full HD ถึง 4 เท่า ซึ่งในทางเทคนิคแล้ว 4K จะเท่ากับความละเอียด 3,840 x 2,160 = 8,294,400 pixels ดังตัวอย่างภาพคือ  3840 x 2160P คือ ความละเอียดที่ระดับ 4K นั้นเอง

[Hz คือ การแสดงภาพนิ่งได้กี่ภาพ (เฟรม) ภายใน 1 วินาที ]

HZ มาจากค่า Refresh rate โดยเป็นค่าที่บ่งบอกว่า จอภาพสามารถแสดงภาพนิ่งได้กี่ภาพ (เฟรม) ภายใน 1 วินาที หรือรองรับการแสดงผลของภาพที่ Frame Rate (fps) สูงสุดเท่าไร โดยจอภาพที่เป็น 60Hz จะรองรับการแสดงผลสูงสุดที่ 60fps ( จอ TV ตามบ้านและในปัจจุบันครับ ) / ส่วนจอภาพ 120Hz ก็รองรับ 120fps ซึ่งยิ่ง fps มาก ภาพที่ได้ก็จะยิ่งมีการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น (ซึ่งจอที่รองรับ 120HZ จะเป็นจอมอนิเตอร์คอมพิวเตอร์ที่เน้นด้านเกมมิ่งหรือเล่นเกมส์น่ะครับ )

ฉะนั้นด้วยเหตุผลข้างต้นเราควรปรับค่าอย่างไรใน HDPLAYER 4K ปัจจุบัน

เราแนะนำว่าท่านควรปรับเป็น

  • Resolution คือ 4K 2160P

  • HZ คือ 60HZ นั้นเอง เพื่อให้ความลื่นไหลดีที่สุดหรือ 24HZ หากต้องการให้ตรงกับต้นฉบับครับ

แต่!! ท่านไม่จำเป็นต้องปรับตามเราแนะนำทั้งหมดก็ได้ เพราะว่าหนังในภาพยนต์ที่เรารู้กันว่า ทำภาพมาที่  23.976Hz  บางท่านจึงรู้สึกว่าควรปรับไปที่ 24HZ เมื่อเล่นหนังจะได้ผลลัพกับต้นฉบับที่ดีที่สุดซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น ท่านต้องเปรียบเทียบเองว่าท่านชอบการดูหนังที่ 60HZ หรือ 24HZ มากกว่ากัน แต่โดยส่วนตัว Admin ชอบที่ 60HZ เพราะให้ภาพที่ลื่นตากว่าครับ แล้วขณะเล่นหนัง เครื่องเล่น HDPLAYER ก็จะมีให้ปรับน่ะครับ ว่าจะเอาที่ 24HZ หรือ 60HZ หรือบางทีเครื่องก็ออโต้ปรับให้ตรงตามต้นฉบับเลยนั้นล่ะครับ

COLOR SETTING

YUV / YCbcr และ RGB คืออะไร?

YUV / YCbCr เป็นค่าที่ความหมายคล้ายคลึงกัน
YUV เป็นระบบการเข้ารหัสสัญญาณสีที่ใช้กับโทรทัศน์ระบบอนาลอกทั่วโลก (PAL , NTSC , SECAM)  สัญญาณ YUV แตกต่างจากสัญญาณสี RGB ซึ่งได้จากการรับภาพจากกล้องหรือการรับภาพจากตามนุษย์  ใน YUV ตัวอักษร Y มาจาก Luminance (Brightness) ซึ่งก็คือความสว่าง  แสงสว่าง  สัญญาณ Y นี้สามารถแสดงส่วนที่สว่างและส่วนที่มืดของภาพเท่านั้นดังนั้นภาพที่ออกมา จึงมีลักษณะเป็นภาพขาวดำ (โทรทัศน์ขาวดำในสมัยก่อนถูกออกแบบเพื่อให้สามารถรับสัญญาณ Y)  ส่วน U และ V มาจาก Chrominance (Color) ซึ่งจะเป็นส่วนของข้อมูลสีและสัญญาณความต่างสี  โดย U คือสัญญาณ Blue Minus Luminance หรือ (B-Y) และ V คือสัญญาณ Red Minus Luminance หรือ (R-Y)

RGB เป็นรูปแบบของสัญญาณภาพวิดีโอที่แยกข้อมูลสีออกเป็นสีแดง

สีเขียวและสีน้ำเงินสามช่องทาง  แต่ละช่องทางของสัญญาณ R , G และ B บรรจุด้วยข้อมูลของสี (Chrominance) และข้อมูลความสว่าง (Luminance)

—————————————

ทาง Admin เราก็สงสัยว่าจะปรับเป็น YUV หรือ RGB ดี ทางเราจึงได้ส่งคำถามไปที่ ZIDOO หนึ่งในผู้ผลิต HD PLAYER 4K ยอดนิยมและได้รับคำตอบว่าควรปรับ YUV เพื่อคุณภาพ ภาพดีที่สุดครับ

—————————————-

ฉะนั้นด้วยเหตุผลข้างต้นเราควรปรับค่าอย่างไรใน HDPLAYER 4K ปัจจุบัน เราแนะนำว่าท่านควรปรับเป็น YUV นั้นเอง

444 422 420 คืออะไร?

คือ ระบบการเก็บข้อมูลสีแบบดิจิตอลทางเทคนิคเรียกว่า Chroma Sampling เพราะโดยปกติภาพวิดีโอ จะมี 2 ข้อมูลคือ ความสว่าง (Luma) และ สี (Chroma) ยกตัวอย่างว่า ถ้าเราเอาสีออกไปทั้งหมดเพื่อลดขนาดข้อมูล สิ่งที่เราได้ก็จะเหลือเพียง ขาว-ดำ ที่แสดงถึงความ สว่าง-มืด เท่านั้นเอง

โดยระบบจัดเก็บ และแสดงสีแบบมาตรฐานในปัจจุบัน จึงมี 3 แบบ คือ 444, 442, 420 ซึ่งจากรูปประกอบจะพบว่า แบบ 444 จะเก็บข้อมูลสีได้มากที่สุดต่อ 1 Pixel, ดังนั้นไฟล์ที่จัดเก็บข้อมูลสีแบบ 444 จึงจะมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย

subsampling_ratios.jpg

ฉะนั้นด้วยเหตุผลข้างต้นเราควรปรับค่าอย่างไรใน HDPLAYER 4K ปัจจุบัน เราแนะนำว่าท่านควรปรับเป็น 444 นั้นเอง เพื่อแสดงสีออกมาให้มากที่สุดครับ

8BIT 10BIT 12BIT ใน Color Setting ของ HDPLAYER คืออะไร

[Color Bit Depth (แปลตรงตัวคือความลึกของบิตสี)]

โดยเทคโนโลยีปัจจุบันที่เราทราบดี นั้นมี HDR10+ อยู่สูงสุดที่ 10-bit ส่วน Dolby Vision อยู่สูงสุดที่ 12-bit

ยิ่งมี Color Bit Depth มากหรือจำนวนเฉดสีมาก การไล่โทนของสี ความเรียบเนียนของสี ยังไง 12BIT ย่อมดีที่สุด

หากท่านดูตามรูปภาพ 8BIT จะได้สีอยู่ที่ 16 ล้านสี

แต่ 10 BIT และ 12 BIT จะมากกว่ามากทีเดียว

โดย 10 BIT อยู่ที่ R1024 x G1024 x B1024 รวมกันจะเป็น 1 พันล้านสี

และ 12 BIT อยู่ที่ R4096 x G4096 x B4096  รวมกันจะเป็น 68 พันล้านสี

ฉะนั้นด้วยเหตุผลข้างต้นเราควรปรับค่าอย่างไรใน HDPLAYER 4K ปัจจุบัน เราแนะนำว่าท่านควรปรับเป็น 10BIT หรือ 12BIT นั้นเอง เพื่อแสดงความลึกสีในทุกเฉดสีให้มากที่สุด

แต่ทั้งนี้ทีวีท่านต้องรองรับด้วย การจะเช็คว่าทีวีท่านรองรับหรือไม่ต้องเช็คจากสเปคของทีวีท่านเองหรือโทรเข้าหาศูนย์ทีวีของท่านเพื่อสอบถามครับ